วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2554
ฉันรักประเทศไทย: ฉันรักประเทศไทย: ฉันรักประเทศไทย.....แบบไหนหว่า
ฉันรักประเทศไทย: ฉันรักประเทศไทย: ฉันรักประเทศไทย.....แบบไหนหว่า: ฉันรักประเทศไทย: ฉันรักประเทศไทย.....แบบไหนหว่า : หลายคนเคยได้ยินได้ฟังคำพูดที่คุ้นๆหูกันมาพอสมควร กับคำว่า ฉันรักประเทศไทย I love thailand...
วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2554
ฉันรักประเทศไทย: ฉันรักประเทศไทย.....แบบไหนหว่า
ฉันรักประเทศไทย: ฉันรักประเทศไทย.....แบบไหนหว่า: หลายคนเคยได้ยินได้ฟังคำพูดที่คุ้นๆหูกันมาพอสมควร กับคำว่า ฉันรักประเทศไทย I love thailand เรารักรปะเทศไทย อะไรประมาญนี้แน่นอนเกิบทุกคนเคยไ...
ฉันรักประเทศไทย.....แบบไหนหว่า
หลายคนเคยได้ยินได้ฟังคำพูดที่คุ้นๆหูกันมาพอสมควร กับคำว่า ฉันรักประเทศไทย I love thailand เรารักรปะเทศไทย อะไรประมาญนี้แน่นอนเกิบทุกคนเคยได้ยินเเน่นอน
แต่ผมลองนึกมองย้อนดูการกระทำของคนไทยเราทุกวันนี้ตรงกันข้ามเลยครับในหลายสิ่งหลายอย่างง่ายๆเรื่องไกล้ตัว ขอเริ่มจาก เรื่องอาหารการกิน แน่นอนที่สุดประเทศเรานี้อาหารหวานคาวเพียบไปหมด ฟรั่งมังค่าก็ชอบขายดิบขายดีแต่พอมีกระเเส ชาติญีปุ่นมาเเรงครับแต่งตัวลอกเลียนเเบบอย่างเดียวคงไม่เพียงพออาหารการกินก็จัดหนักซื่อขายกันดิบดีเเซงหน้าอาหารไทยดั้งเดิมโดยสิ้นเชิง555
นั้นก็คือ ซูชิ ที่ขายกันตามตลาดนัดทั่วไปบ้างในห้างบ้าง วันนึง ผมเดินอยู่ตลาดนัดแห่งนึงแอบได้ยินคนกลุ่มนึงคุยกันประมาญว่ากินอะไรกันดีตอนนั้นเดินผ่านร้านขนมครกกะข้าวต้มมัดแม่ค้าก็เรียกหาลูกค้าตามธรรมดา "ขนมไม่จ้าๆ ขนมไทย อร่อยๆ จร้า้"
ก็สาวๆกลุ่มนั้นเเหละคับเดินผ่านไปได้นิดนึงก็พูเล่นๆกันกับเพื่อนๆว่า " กินขนมครกสิโบราณดีนะเข้ากับหน้าตาพวกเธอเลย" "หรือจะกินข้าวต้มมัดละโบราณพอกัน"แล้วก็หัวเราะชอบใจกันจากนั้นพวกเธอก็พากันเดินตรงไปร้านอะไรสักอย่างมองไม่เห็นคนขายเพราะมีคนรุมล้อมกันเเน่นขนัดและเเล้ว อ้อ ร้านขายซูชินี้เองขายดิบขายดีอย่างน่าแปลกใจ ผมเลยเเอบสงสัยว่า ไอ้ซูชิ เนี้ยมันไม่โบราณหรอมันทันสมัยตรงไหนมันก็คือของโบราณของญีปุ่นเขาเหมือนกัน
ผมเกิดเดินคิดเล่นๆในใจว่าถ้าหากคนไทยเรายังคิดกันอย่างนี้เเล้วเราจะเหลืออะไรที่เป็นของเราแต่โบราณมันอาจเป็นเรื่องเล้กน้อยสำหรับคนบางคนแต่หากเกิดขึ้นต่อไปเรื่อยๆของพวกนี้อาจจะหมดสิ้นไปเพราะขายไม่ได้แล้วก็จะไม่มีการทำขายเลยในอนาคตเพราะไม่รู้จะขายไครคนทำเป็นก็ล้มหายตายจากอาจจะไม่มีแม้เพียงตำราให้ศึกษาเลยเพียงเเค่นิยมของลอกเลียนแบบชาติพัฒนาเเล้วเกิบทุกสิ่งทุกอย่า่งหน้าตา ทรงผม แม้นแต่ ชื่อ ยังเปลียนหรือตั้งชื่อใหม่ให้ไปทางออกแนว ญีปุ่น เกาหลีมากขึ้น ไม่เข้าใจเลยว่า ไปครั้งไคร้อะไรเขานักหน้าเขาโด้งดังก็เพราะเขาเป็นชาตินิยม ซึ่งนิยมชมชอบขนบธรรมเนียม ของชาติเขาเองไม่มีหรอกให้เขามาแต่งตัวตั้งชื่อเลียนเเบบชาติอื่นมีแต่ไทยเรานี้เเหละ ขนาดตัวอักษร อักษรไทยแท้ๆยังพยายามเขียนให้คล้ายๆ กับ อักษรจีนบ้าง ญี่ปุ่นบ้าง เกาหลีบ้าง หลายๆคนคงเคยเห็นแล้วมีอะไรบ้างที่คนไทยเราภาคภูมิใจในของของตัวเอง55555
ก็น่าคิดนะครับแต่อันนี้เปรียบเทียบให้เห็นเฉยๆนะครับเพราะหลายๆคนคงเเอนตี้ เเน่ๆ ในสิ้งที่ผมคิดแต่อยากให้ลืมตามองสิ่งที่เป็นจิงคับ
....................................................................................................................................................................
+ทำไปได้+
อีกสิ่งนึงที่น่าเเปลกมากซีรีเกาหลีขายดีมากๆๆกี่เรื่องกี่เรื่องซื่อของเเท้เก็บไว้ทุกเรื่องดูไปอินไปถ้าลองเป็นหนังของไทยละก็ ฮึๆๆ รอหนังซูมดีกว่า555 ก่อนเข้าโรงประชาสัมพันธกันจ้าละหวั่นแทบไม่มีคนดูส่วนเเผ่นเพลงก็สตายเดียวกันถ้าเป็นนักร้องคนโปรดมาจากต่างแดนละก็แ่ผ่นแท้แพงแค่ไหนก็จะซื่อเก็บไว้ทุกชุดศิลปิลไทยก็ตามสูตรแ่ผ่นแท้แทบขายไม่ได้ตระเวรออกงานเเล้วกัน ฟังรู้เรื่องไม่รู้เรื่องก็ฟังๆไป
อนุรักษ์ความเป็นไทยกันโดยแต่งตัวลอกเลียนเเบบเสื่อผ้านำเข้าจากเกาหลี ญีปุุ่น แม้นเป็นเพียงมือสองขายดีสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆไปเลยทำเอาโรงงานผลิดในไทยแท้ๆต้องหลอกว่านำเข้าจาก เกาหลี ญี่ปุ่นไม่งั้นขายไม่ออกพอบอกแค่นี้สามวันหมดสต็อก555555น่าขำไม่ละคับคนบ้านเรารักประเทศไทยกันแบบนี้งงไหม่ละคับ หน้าตาคนบ้านเราคมๆเข็มๆ ไม่ชอบ ทรงผมรองทรง ต่ำ สูง หน้าม้า หมดเเล้วครับสมัยนี้ไม่เท้ไม่หล้อ ไว้รากไทรรุงรังตามเขาดีกว่าหน้าไม่ให้แต่ใจรักสะอย่างไครจะว่าไรอิอิ
....................................................................................................................................................................
+เที่ยวมาเยอะ+
วันนึงผมได้มีโอกาศนั้งรถตู้จากอนุสาวรีชัยไปเมืองฉะเชิงเทราซื่อตั๋วขึ้นรถคนเต็มรถก็ออกระยะนึงก็ตามสูตรครับคุยโทรศัพกันบ้างฟังเพลงกันบ้างจับเขาคุยเสียงดังกันบ้าง
มีเจ้สองคนอายุราวๆเดียวกันประมาณ 50 ต้นๆ แต่คงไม่รู้จักกันหรอกคับแต่ได้นั้งคู่กันเจ้เขาก็ทำความรู้จักกันตามมารญาติที่ดีงามของคนไทยประมาณ ว่าอีกคนเป็นคนฉะเชิงเทรามาซื่อของที่ กทม เจ็อีกคน เป็นคนกรุงจะไปเยี่ยมลูกสาวทำงานที่ฉะเชิงเทราหลังจากรถออกสักพักนึงก็ทำความรู้จักถามไถ่เรียบร้อยก็เริ่มเล่าสรรพคุณของตนเองอันนี้เจ้คนที่อยู่ กทม จะไปเยี่ยมลูกนะ ก็เริ่มเล่าประวัติการท่องเที่ยวของตัวเองให้เจ้อีกคนฟังประมาณว่า ชีวิตนี้ เจ้ไปมาเกือบทุกที่เเล้วต่างประเทศอะนะที่ว่าดังๆตอนสาวๆก็ไปอินเดีย อเมริก อังกฦษ แคนนาดา ขั้วโลกเหนือ เอเวอร์เรด สีลังกา โอ้ยไปมาหมดล่าสุดนี้ไป หอเอน ที่อิตาลี่ เดือนหน้ากะว่าจะไป เที่ยว อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ ต่างๆนาๆ พอรถผ่านสะพานข้ามแม่น้ำไม่แน่ใจเเม่น้ำอะไรทุกคนในรถยกมือขึ้นไหวไม่เว่นฟรั่งสองคนที่นั้งในรถไหว้ไปทางทิศเดียวกันคือฝั้งที่มีวัดหลวงพ่อโสธรตั้งอยู่มีเจ้คนนั้นคนเดียวกลับถามว่าไหว้อะไรกันหรอเจ้คนนั้งข้างๆก็เลยบอกว่านั้น แหละวัดหลวงพ่อโสธร เคยไปไหมล่ะ เคยไปอยู่มั้งค่ะไปมารอบโลกเเล้วนิค่ะนี้อยู่ไกล้ๆ กทม เอง
หลังจากนั้นก็ไม่มีเสียงไครพูดอะไรอีกเลย อิอิอิ สถานที่ท่องเที่ยวดีๆบานเราก็มีมากมายฟรั่งยังรู้อีกหน่อยคนไทยต้องถามทางฟรั่งต่างเเดนละมั้ง
ยังไม่จบนะคับเดียวมาต่อวันนี้คงพอก่อน
แต่ผมลองนึกมองย้อนดูการกระทำของคนไทยเราทุกวันนี้ตรงกันข้ามเลยครับในหลายสิ่งหลายอย่างง่ายๆเรื่องไกล้ตัว ขอเริ่มจาก เรื่องอาหารการกิน แน่นอนที่สุดประเทศเรานี้อาหารหวานคาวเพียบไปหมด ฟรั่งมังค่าก็ชอบขายดิบขายดีแต่พอมีกระเเส ชาติญีปุ่นมาเเรงครับแต่งตัวลอกเลียนเเบบอย่างเดียวคงไม่เพียงพออาหารการกินก็จัดหนักซื่อขายกันดิบดีเเซงหน้าอาหารไทยดั้งเดิมโดยสิ้นเชิง555
นั้นก็คือ ซูชิ ที่ขายกันตามตลาดนัดทั่วไปบ้างในห้างบ้าง วันนึง ผมเดินอยู่ตลาดนัดแห่งนึงแอบได้ยินคนกลุ่มนึงคุยกันประมาญว่ากินอะไรกันดีตอนนั้นเดินผ่านร้านขนมครกกะข้าวต้มมัดแม่ค้าก็เรียกหาลูกค้าตามธรรมดา "ขนมไม่จ้าๆ ขนมไทย อร่อยๆ จร้า้"
ก็สาวๆกลุ่มนั้นเเหละคับเดินผ่านไปได้นิดนึงก็พูเล่นๆกันกับเพื่อนๆว่า " กินขนมครกสิโบราณดีนะเข้ากับหน้าตาพวกเธอเลย" "หรือจะกินข้าวต้มมัดละโบราณพอกัน"แล้วก็หัวเราะชอบใจกันจากนั้นพวกเธอก็พากันเดินตรงไปร้านอะไรสักอย่างมองไม่เห็นคนขายเพราะมีคนรุมล้อมกันเเน่นขนัดและเเล้ว อ้อ ร้านขายซูชินี้เองขายดิบขายดีอย่างน่าแปลกใจ ผมเลยเเอบสงสัยว่า ไอ้ซูชิ เนี้ยมันไม่โบราณหรอมันทันสมัยตรงไหนมันก็คือของโบราณของญีปุ่นเขาเหมือนกัน
ผมเกิดเดินคิดเล่นๆในใจว่าถ้าหากคนไทยเรายังคิดกันอย่างนี้เเล้วเราจะเหลืออะไรที่เป็นของเราแต่โบราณมันอาจเป็นเรื่องเล้กน้อยสำหรับคนบางคนแต่หากเกิดขึ้นต่อไปเรื่อยๆของพวกนี้อาจจะหมดสิ้นไปเพราะขายไม่ได้แล้วก็จะไม่มีการทำขายเลยในอนาคตเพราะไม่รู้จะขายไครคนทำเป็นก็ล้มหายตายจากอาจจะไม่มีแม้เพียงตำราให้ศึกษาเลยเพียงเเค่นิยมของลอกเลียนแบบชาติพัฒนาเเล้วเกิบทุกสิ่งทุกอย่า่งหน้าตา ทรงผม แม้นแต่ ชื่อ ยังเปลียนหรือตั้งชื่อใหม่ให้ไปทางออกแนว ญีปุ่น เกาหลีมากขึ้น ไม่เข้าใจเลยว่า ไปครั้งไคร้อะไรเขานักหน้าเขาโด้งดังก็เพราะเขาเป็นชาตินิยม ซึ่งนิยมชมชอบขนบธรรมเนียม ของชาติเขาเองไม่มีหรอกให้เขามาแต่งตัวตั้งชื่อเลียนเเบบชาติอื่นมีแต่ไทยเรานี้เเหละ ขนาดตัวอักษร อักษรไทยแท้ๆยังพยายามเขียนให้คล้ายๆ กับ อักษรจีนบ้าง ญี่ปุ่นบ้าง เกาหลีบ้าง หลายๆคนคงเคยเห็นแล้วมีอะไรบ้างที่คนไทยเราภาคภูมิใจในของของตัวเอง55555
ก็น่าคิดนะครับแต่อันนี้เปรียบเทียบให้เห็นเฉยๆนะครับเพราะหลายๆคนคงเเอนตี้ เเน่ๆ ในสิ้งที่ผมคิดแต่อยากให้ลืมตามองสิ่งที่เป็นจิงคับ
....................................................................................................................................................................
+ทำไปได้+
อีกสิ่งนึงที่น่าเเปลกมากซีรีเกาหลีขายดีมากๆๆกี่เรื่องกี่เรื่องซื่อของเเท้เก็บไว้ทุกเรื่องดูไปอินไปถ้าลองเป็นหนังของไทยละก็ ฮึๆๆ รอหนังซูมดีกว่า555 ก่อนเข้าโรงประชาสัมพันธกันจ้าละหวั่นแทบไม่มีคนดูส่วนเเผ่นเพลงก็สตายเดียวกันถ้าเป็นนักร้องคนโปรดมาจากต่างแดนละก็แ่ผ่นแท้แพงแค่ไหนก็จะซื่อเก็บไว้ทุกชุดศิลปิลไทยก็ตามสูตรแ่ผ่นแท้แทบขายไม่ได้ตระเวรออกงานเเล้วกัน ฟังรู้เรื่องไม่รู้เรื่องก็ฟังๆไป
อนุรักษ์ความเป็นไทยกันโดยแต่งตัวลอกเลียนเเบบเสื่อผ้านำเข้าจากเกาหลี ญีปุุ่น แม้นเป็นเพียงมือสองขายดีสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆไปเลยทำเอาโรงงานผลิดในไทยแท้ๆต้องหลอกว่านำเข้าจาก เกาหลี ญี่ปุ่นไม่งั้นขายไม่ออกพอบอกแค่นี้สามวันหมดสต็อก555555น่าขำไม่ละคับคนบ้านเรารักประเทศไทยกันแบบนี้งงไหม่ละคับ หน้าตาคนบ้านเราคมๆเข็มๆ ไม่ชอบ ทรงผมรองทรง ต่ำ สูง หน้าม้า หมดเเล้วครับสมัยนี้ไม่เท้ไม่หล้อ ไว้รากไทรรุงรังตามเขาดีกว่าหน้าไม่ให้แต่ใจรักสะอย่างไครจะว่าไรอิอิ
....................................................................................................................................................................
+เที่ยวมาเยอะ+
วันนึงผมได้มีโอกาศนั้งรถตู้จากอนุสาวรีชัยไปเมืองฉะเชิงเทราซื่อตั๋วขึ้นรถคนเต็มรถก็ออกระยะนึงก็ตามสูตรครับคุยโทรศัพกันบ้างฟังเพลงกันบ้างจับเขาคุยเสียงดังกันบ้าง
มีเจ้สองคนอายุราวๆเดียวกันประมาณ 50 ต้นๆ แต่คงไม่รู้จักกันหรอกคับแต่ได้นั้งคู่กันเจ้เขาก็ทำความรู้จักกันตามมารญาติที่ดีงามของคนไทยประมาณ ว่าอีกคนเป็นคนฉะเชิงเทรามาซื่อของที่ กทม เจ็อีกคน เป็นคนกรุงจะไปเยี่ยมลูกสาวทำงานที่ฉะเชิงเทราหลังจากรถออกสักพักนึงก็ทำความรู้จักถามไถ่เรียบร้อยก็เริ่มเล่าสรรพคุณของตนเองอันนี้เจ้คนที่อยู่ กทม จะไปเยี่ยมลูกนะ ก็เริ่มเล่าประวัติการท่องเที่ยวของตัวเองให้เจ้อีกคนฟังประมาณว่า ชีวิตนี้ เจ้ไปมาเกือบทุกที่เเล้วต่างประเทศอะนะที่ว่าดังๆตอนสาวๆก็ไปอินเดีย อเมริก อังกฦษ แคนนาดา ขั้วโลกเหนือ เอเวอร์เรด สีลังกา โอ้ยไปมาหมดล่าสุดนี้ไป หอเอน ที่อิตาลี่ เดือนหน้ากะว่าจะไป เที่ยว อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ ต่างๆนาๆ พอรถผ่านสะพานข้ามแม่น้ำไม่แน่ใจเเม่น้ำอะไรทุกคนในรถยกมือขึ้นไหวไม่เว่นฟรั่งสองคนที่นั้งในรถไหว้ไปทางทิศเดียวกันคือฝั้งที่มีวัดหลวงพ่อโสธรตั้งอยู่มีเจ้คนนั้นคนเดียวกลับถามว่าไหว้อะไรกันหรอเจ้คนนั้งข้างๆก็เลยบอกว่านั้น แหละวัดหลวงพ่อโสธร เคยไปไหมล่ะ เคยไปอยู่มั้งค่ะไปมารอบโลกเเล้วนิค่ะนี้อยู่ไกล้ๆ กทม เอง
หลังจากนั้นก็ไม่มีเสียงไครพูดอะไรอีกเลย อิอิอิ สถานที่ท่องเที่ยวดีๆบานเราก็มีมากมายฟรั่งยังรู้อีกหน่อยคนไทยต้องถามทางฟรั่งต่างเเดนละมั้ง
ยังไม่จบนะคับเดียวมาต่อวันนี้คงพอก่อน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)